การเดินเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ใครๆ ก็ทำได้ เพื่อรักษาสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรง ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนแนะนำให้เดิน 10,000 ก้าวต่อวันเพื่อให้ได้รับประโยชน์ทางร่างกายและจิตใจสูงสุด อย่างไรก็ตาม คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ 10,000 ก้าวเท่ากับกี่กิโลเมตร และต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะถึงเป้าหมาย บทความนี้จะอธิบายอย่างครอบคลุมตั้งแต่การคำนวณระยะทาง ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วในการเดิน ไปจนถึงเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายรายวันนี้
นับระยะทาง 10,000 ก้าว
ความยาวก้าวย่างเฉลี่ยของมนุษย์
ความยาวก้าวเดินของมนุษย์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับส่วนสูง เพศ และสภาพร่างกาย โดยทั่วไปแล้ว ความยาวก้าวเดินโดยเฉลี่ยของผู้ใหญ่จะอยู่ระหว่าง 0.6 ถึง 0.8 เมตรต่อก้าว หากถือว่าความยาวก้าวเดินคือ 0.7 เมตร การคำนวณระยะทางสามารถทำได้ดังนี้:
- 10,000 ขั้น × 0.7 เมตร = 7,000 เมตร
- 7,000 เมตร = 7 กิโลเมตร
นั่นหมายความว่า คนที่มีระยะก้าวเดิน 0.7 เมตร การเดิน 10,000 ก้าวจะเทียบเท่ากับระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร
ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงความยาวก้าว
- ส่วนสูง
คนที่ตัวสูงมักจะมีก้าวเดินที่ยาวกว่า ในทางกลับกัน คนที่ตัวเตี้ยมักจะมีก้าวเดินที่สั้นกว่า - ความเร็วในการเดิน
เมื่อเดินเร็ว ความยาวของก้าวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากแรงขับเคลื่อนของขาที่แรงกว่าและช่วงการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น - สภาวะทางการแพทย์หรือการออกกำลังกาย
ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บหรือภาวะบางอย่างอาจก้าวเท้าสั้นลงเพื่อความสบาย
เวลาที่ต้องใช้สำหรับ 10,000 ก้าว
ความเร็วในการเดินเฉลี่ย
ความเร็วในการเดินยังแตกต่างกันไป แต่สำหรับการประมาณโดยทั่วไป สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้:
- สบายๆ (3 กม./ชม.)
- ปานกลาง (5 กม./ชม.)
- เร็ว (6–7 กม./ชม.)
ตัวแปรในความเร็วในการเดิน
- สภาพถนนขึ้นเขาหรือเป็นหิน
จะทำให้ความเร็วของคุณช้าลง - สภาพ อากาศ อากาศ
ร้อนหรือฝนตกอาจส่งผลต่อความสะดวกสบายและความเร็วในการเดิน - ฟิตเนสส่วนบุคคล
ยิ่งบุคคลได้รับการฝึกฝนมากเท่าไร การก้าวเดินของเขาก็จะมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
เวลาที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพ
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้ใหญ่มีกิจกรรมทางกายที่มีความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หากคำนวณทุกวัน จะเท่ากับว่าสามารถเดินเร็วได้ประมาณ 30 นาที (ความเร็ว 5 กม./ชม.) ด้วยการเดิน 2,500 ก้าว ในขณะที่การเดินให้ได้ 10,000 ก้าวด้วยความเร็วปานกลางจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ประโยชน์ของการเดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน
สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
การเดินเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และลดความดันโลหิต นอกจากนี้ การเดินยังช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) อีกด้วย
การควบคุมน้ำหนัก
การเผาผลาญแคลอรีผ่านการเดินสามารถช่วยคุณควบคุมน้ำหนักได้ โดยเฉลี่ยแล้ว การเดิน 10,000 ก้าวจะเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 300–500 แคลอรี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็ว น้ำหนัก และภูมิประเทศของคุณ
ประโยชน์ด้านสังคมและจิตใจ
- การลดความเครียด
การออกกำลังกายจะผลิตสารเอนดอร์ฟินซึ่งจะช่วยปรับปรุงอารมณ์และลดความวิตกกังวล - โอกาสในการเข้าสังคม
การเดินกับเพื่อนหรือครอบครัวสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มแรงจูงใจได้
เคล็ดลับในการเดินให้ได้ 10,000 ก้าว
การแยกเป้าหมายขั้นตอน
แทนที่จะพยายามทำให้เสร็จภายในเซสชันเดียวที่ยาวนาน ควรแบ่งเป้าหมายออกเป็นเซสชันสั้นๆ หลายเซสชัน ตัวอย่างเช่น:
- 2,500 ก้าวตอนเช้า
- 2,500 ก้าวในช่วงพักเที่ยง
- หลังเลิกงานเดิน 2,500 ก้าว
- 2,500 ก้าวในตอนกลางคืน
การใช้แอปหรือเครื่องมือติดตาม
สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอทช์ของคุณสามารถติดตามจำนวนก้าวของคุณได้โดยอัตโนมัติ ติดตามความคืบหน้ารายวันของคุณและตั้งการแจ้งเตือนให้ลุกขึ้นและเดินทุก ๆ ชั่วโมง
ไม่ไปไหนเลย
ขณะดูโทรทัศน์หรือรับสายโทรศัพท์ ให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์โดยเดินไปกับที่ แม้ว่าระยะทางจะไม่มาก แต่การเดินจะช่วยเพิ่มจำนวนก้าวได้มาก
ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- จอดรถให้ไกลออกไป
จอดรถของคุณให้ไกลจากทางเข้าสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้าเล็กน้อย - ลงรถเร็ว
หากคุณใช้บริการขนส่งสาธารณะ ควรลงรถเร็วกว่ากำหนดหนึ่งป้ายเพื่อเพิ่มจำนวนก้าว
การเอาชนะความท้าทายและแรงบันดาลใจ
ความวุ่นวายในแต่ละวัน
สำหรับบางคน งานคือเหตุผลที่ไม่ควรย้ายบ้าน จัดตารางเวลาอย่างมีระเบียบวินัย และจัดเวลาพิเศษสำหรับการเดินเล่น
สภาพอากาศเลวร้าย
เมื่อสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางเลือกหนึ่งคือการเดินในร่ม เช่น ที่ห้างสรรพสินค้าหรือบนลู่วิ่ง
การรักษาความสม่ำเสมอ
สร้างตารางรายสัปดาห์และทำเครื่องหมายวันต่างๆ ไว้บนปฏิทิน ขอให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเป็นคู่หูของคุณเพื่อให้คุณมีแรงบันดาลใจมากขึ้น
คำสุดท้าย
การตั้งเป้าหมายเดิน 10,000 ก้าวต่อวันเป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณ เมื่อเข้าใจระยะทางและเวลาที่จำเป็น—ประมาณ 7 กิโลเมตรใน 1 ถึง 2 ชั่วโมง—คุณก็สามารถวางแผนการเดินให้เหมาะกับกิจวัตรของคุณได้ จำไว้ว่าคุณภาพและความสม่ำเสมอสำคัญกว่าปริมาณเพียงอย่างเดียว เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และเพลิดเพลินไปกับทุกก้าวที่มุ่งสู่การใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ ajakteman.com และรับแรงบันดาลใจจากกิจกรรมสนุกๆ ในแต่ละวัน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์!